by แมริลีน ไรเคิร์ท
ตอนที่เป็นวัยรุ่น การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของคุณพ่อเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับฉัน ที่ ผ่านมาฉันก็ดื้อดึงอยู่แล้ว แต่การเสียชีวิตของท่าน ประกอบกับความสัมพันธ์กับคุณแม่ที่แย่ลง ทำให้ชีวิตฉันหันไปหาสิ่งที่เป็นการทำลายตัวเอง ตอนอายุ 19 ฉันย้ายไปอยู่แถบเวสต์โคสต์ โดยตั้งใจว่าจะเริ่มต้นใหม่ ไม่ถึงสามเดือนฉันก็ได้พบทอม และสองเดือนต่อมาเราก็เริ่มอยู่ด้วยกัน เราพยายามฟันฝ่าชีวิตในช่วงหนึ่งปีครึ่งถัดมา เราแต่งงานกันในปี 1971 และมีลูกสามคนระหว่างปี1973-1981
ชีวิตที่ย่ำแย่
ทอมถูกให้ออกจากงาน และฉันออกไปทำงาน ฉันมีความสุขกับความรับผิดชอบที่ได้รับในตำแหน่งของตน ฉันชอบมื้อค่ำที่หรูหรา และการที่คนอื่นให้ความสนใจฉันในแง่บวก
ห้าปีต่อมา หลังจากที่ฉันแทบไม่เจอหน้าลูก ๆ ไม่มีความสัมพันธ์กับสามี และมีความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมนอกชีวิตสมรส บาร์บ ซึ่งเป็นเพื่อนกับฉันมานาน ก็บอกฉันว่า “แมริลีน ตั้งแต่ฉันรู้จักเธอ สิ่งเดียวที่เธออยากเป็นก็คือแม่และภรรยา ถ้าเธอไม่รีบเปลี่ยนแปลงซะเดี๋ยวนี้ ซักวันเธอจะกลับมาบ้าน และพบว่าลูก ๆ โตเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วโดยที่ไม่มีเธอ”
เดือนตุลาคมปี 1987 ฉันพาลูก ๆ ขึ้นรถและขับจากไป
ความว่างเปล่าหายไป
เนื่องจากฉันทำงานนอกบ้านมานานห้าปี ฉันจึงมีปัญหาในการขอเป็นผู้เลี้ยงดูลูกสามคน จิม ผู้จัดการของฉัน บอกว่าเขาอยากอธิษฐานเพื่อฉัน ฉันตกลงแบบไม่สู้เต็มใจ และพอเขากล่าวคำว่า “อาเมน” ฉันก็รีบเผ่นออกจากห้องเขาทันที
แต่แล้วฉันก็ต้องประหลาดใจ ผู้พิพากษาให้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกร่วมกัน โดยที่ฉันกับสามีสามารถพบหน้าลูกได้เท่ากัน ฉันจึงรู้ว่ายังมีพระเจ้าที่รักฉัน เหมือนที่จิมบอกฉันอยู่บ่อย ๆ ฉันวิ่งไปโทรศัพท์หาจิม และบอกว่า “เอาล่ะ ฉันอยากรู้จักพระเจ้าของคุณมากขึ้น ดูเหมือนคุณจะมีโทรศัพท์สายตรงถึงพระองค์นะ ฉันพร้อมจะฟังแล้วล่ะ”
สองสามสัปดาห์ต่อมา จิมเล่าเรื่องพระเยซูให้ฉันฟังมากขึ้น เขาบอกฉันว่าพระเจ้าทรงรักฉัน และสร้างฉันมาเพื่อให้รู้จักพระองค์เป็นส่วนตัว เขาบอกด้วยว่าที่ฉันไม่สามารถสัมผัสความรักของพระเจ้าในชีวิต ก็เพราะฉันดื้อรั้นอยากทำตามใจตัวเอง
ฉันอธิษฐานกับจิม แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฉันจะพูดคำว่า “อาเมน” ก็มีบางสิ่งลึก ๆ เกิดขึ้นภายใน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ความว่างเปล่าในใจฉันหายไป ฉันรู้ว่าฉันสามารถเริ่มต้นใหม่ได้จริง ๆ
เริ่มต้นใหม่
ในช่วง 13 ปีหลังจากคืนนั้น ฉันผ่านพายุหลายลูกในชีวิต แต่ชีวิตฉันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เมื่อฉันอ่านพระคัมภีร์และอธิษฐาน สันติสุขเกินคำอธิบายก็เข้ามาครอบครองจิตใจฉันทุกวันและในทุกสถานการณ์
ทุกวันนี้ แม้จะมีความลำบากมากมายในชีวิต ฉันก็ไม่คิดจะจัดการกับชีวิตตามลำพัง โดยปราศจากความมั่นใจว่าพระเจ้าทรงควบคุมสถานการณ์อยู่ ฉันสามารถพูดได้อย่างไม่เสแสร้งว่า ฉันมีชีวิตใหม่ พระเจ้าทรงให้ฉันได้เริ่มต้นใหม่
ขอให้คุณลองมองดูชีวิตของคุณ คุณจะบรรยายชีวิตของคุณว่าอย่างไร? พึงพอใจ? เร่งรีบ? ตื่นเต้น? เครียด? มุ่งไปข้างหน้า? พะวักพะวง? สำหรับพวกเราหลายคน ชีวิตเป็นเหมือนทั้งหมดที่กล่าวมาในบางช่วงบางเวลา มีหลายสิ่งที่เราฝันว่าสักวันจะได้ทำ และมีหลายสิ่งที่เราอยากจะลืม พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเยซูเสด็จมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นสิ่งใหม่ ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถเริ่มต้นใหม่หมดโดยไม่มีความผิดในอดีตติดตัว?
อยู่อย่างมีความหวัง
ถ้าคุณกำลังมองหาสันติสุข มีหนทางหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตคุณสมดุล ไม่มีใครสามารถเป็นคนดีพร้อมไร้ที่ติ หรือมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเราทุกคนมีโอกาสที่จะสัมผัสพระคุณที่สมบูรณ์ ผ่านทางความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์
คุณสามารถรับพระเยซูคริสต์ได้เดี๋ยวนี้ด้วยการอธิษฐานโดยความเชื่อ การอธิษฐานคือการสนทนากับพระเจ้า พระเจ้าทรงทราบจิตใจของคุณ และพระองค์สนพระทัยท่าทีในจิตใจ มากกว่าถ้อยคำที่คุณอธิษฐาน ต่อไปนี้เป็นคำอธิษฐานที่เราขอแนะนำ
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์ต้องการรู้จักพระองค์เป็นส่วนตัว ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อความผิดบาปของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอเปิดประตูชีวิตต้อนรับพระองค์ และขออัญเชิญพระองค์เข้ามาอยู่ในชีวิต ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดและองค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดครอบครองชีวิตของข้าพระองค์ ขอขอบพระคุณที่ทรงโปรดยกโทษความผิดบาปของข้าพระองค์ และประทานชีวิตนิรันดร์แก่ข้าพระองค์ โปรดสร้างข้าพระองค์ให้เป็นคนแบบที่พระองค์ต้องการเถิด อาเมน
คำอธิษฐานนี้ตรงกับความปรารถนาในจิตใจคุณหรือไม่? คุณสามารถอธิษฐานได้เดี๋ยวนี้ และพระเยซูคริสต์จะเสด็จเข้ามาในชีวิตของคุณ ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้
คุณสามารถมีชีวิตแบบนี้ได้ไหม?
ถ้าคุณได้อัญเชิญพระคริสต์เข้ามาในชีวิตแล้ว ให้คุณขอบพระคุณพระเจ้าบ่อย ๆ ที่พระองค์ทรงอยู่ในชีวิตคุณ ที่พระองค์จะไม่มีวันทิ้งคุณ และที่คุณมีชีวิตนิรันดร์แล้ว เมื่อคุณเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพระเจ้า และเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงรักคุณมากเพียงไร คุณก็จะสัมผัสชีวิตที่ครบบริบูรณ์เต็มเปี่ยม