ชัยชนะก็ยังไม่พอ

by ทอม เลห์แมน
ผมผิดหวังอย่างรุนแรงเมื่อเห็นลูกที่ผมตีตกหายไปอยู่ในหลุมทรายที่หลุม สุดท้าย และที่หายไปพร้อมกันก็คือโอกาสที่ผมจะชนะรายการเดอะมาสเตอร์สปี 1994 แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งความผิดหวังของผม (หมายเหตุ: เดอะมาสเตอร์สเป็นการแข่งกอล์ฟรายการใหญ่ ที่เรียกว่ารายการเมเจอร์ หนึ่งในสี่รายการ อีกสามรายการคือ ยู.เอส.โอเพ่น, บริติชโอเพ่น และ พีจีเอแชมเปียนชิพ)

สองปีต่อมาผมพลาดโอกาสที่จะคว้าแชมป์ ยู.เอส.โอเพ่น โดยจบเป็นที่สองของทั้งสองปี ผมต้องต่อสู้กับความไม่มั่นใจในตัวเอง และหวาดกลัวที่จะฟังเสียงนักวิจารณ์ที่บอกว่าผมคงไม่มีทางชนะรายการใหญ่ได้

ไม่มั่นใจในตัวเอง

ความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม ตอนที่ผมอายุ 15 ทีมฟุตบอลของเราได้แชมป์ของรัฐ ผมเป็นควอเตอร์แบ็คมือสาม และนั่งอยู่ที่ม้านั่งตลอดทั้งเกม

พอกลับไปที่เมือง เราก็มีขบวนพาเหรดใหญ่โต แล้วก็กลับไปที่โรงยิมของโรงเรียนเพื่อร่วมงานฉลองกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนตื่นเต้นมาก แต่ผมจำได้ว่าตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยวเคว้งคว้าง เพราะผมไม่ได้มีส่วนช่วยให้ทีมชนะ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนล้มเหลว

ความหมายของชีวิตคืออะไร?

ที่ผ่านมาผมพยายามอย่างสุดความสามารถ ผมพยายามทำตัวเป็นคนดีของพ่อแม่ เป็นคนดีของทีม เป็นคนดีของเพื่อน ๆ และเป็นคนดีของพระเจ้า แต่ความล้มเหลวแต่ละครั้งมีแต่จะทำให้ผมรู้สึกแย่ลง ๆ ผมคิดในใจว่า “ความหมายของชีวิตอยู่ที่ไหน? ฉันอยู่ที่นี่ทำไม? ทำไมฉันถึงน่าสมเพชอย่างนี้?”

โค้ชของผมเป็นคริสเตียน และเขาชวนผมไปร่วมงานพบปะกับนักกีฬาคริสเตียนบางคน เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคนพูดถึงพระเจ้าและการที่พระองค์ทรงยอมรับเราโดยไม่ มีเงื่อนไข และนั่นแหละคือสิ่งที่ผมกำลังแสวงหา ผมอยากรู้สึกว่าผมเป็นที่รักและมีคนเห็นคุณค่า ถึงแม้ว่าผมจะล้มเหลว เวลานั้นเองพระเจ้าทำให้ผมรู้ว่าผมมีความหมาย พระเจ้าทรงเห็นว่าผมมีความหมายมากพอที่พระองค์จะยอมสิ้นพระชนม์เพื่อผม และนั่นทำให้ผมรู้ว่าผมมีความสำคัญ

ความเปลี่ยนแปลงและการยอมรับ

ผมขอให้พระเจ้าเสด็จเข้ามาในชีวิต ความรู้สึกผิดของผมอันตรธานหายไป น้ำตาแห่งความปลื้มปีติหลั่งไหลออกมา ผมสัมผัสได้ถึงสันติสุขและความอิ่มใจอย่างที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน

ไม่นานหลังจากผมแพ้ในรายการ ยู.เอส.โอเพ่นสองครั้ง ผมก็ชนะรายการบริติชโอเพ่น และรายการพีจีเอทัวร์แชมเปียนชิป ผม ถูกจัดอันดับเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของโลก ผมคิดว่าชัยชนะจะทำให้ชีวิตผมดีขึ้น แต่ผมก็ยังมีปัญหาหลายอย่าง พระคัมภีร์กล่าวว่ามนุษย์ทุกคนเหมือนต้นหญ้า และศักดิ์ศรีของเขาก็เหมือนดอกไม้ในทุ่งนา หญ้าจะเหี่ยวแห้ง และดอกไม้ก็จะร่วงโรยไป ผมพบว่านี่เป็นความจริงในชีวิตผม ชัยชนะนั้นยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายแล้วมันก็ว่างเปล่า แม้แต่ความตื่นเต้นที่ได้ชนะรายการบริติชโอเพ่นก็จางหายไป

แล้วอะไรล่ะที่จะคงอยู่ถาวร? คำตอบคือ ความสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับคนอื่น นี่คือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย ไม่ว่าคนอื่นจะพูดถึงผมว่าอย่างไร ภรรยาและลูก ๆ ของผมก็ยังคิดว่าผมยอดเยี่ยม พวกเขารักผม แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ พระเจ้าทรงรักผม และในที่สุดแล้วพระองค์คือผู้เดียวที่มีความสำคัญ

ขอให้คุณลองมองดูชีวิตของคุณ คุณจะบรรยายชีวิตของคุณว่าอย่างไร? พึงพอใจ? เร่งรีบ? ตื่นเต้น? เครียด? มุ่งไปข้างหน้า? พะวักพะวง? สำหรับพวกเราหลายคน ชีวิตเป็นเหมือนทั้งหมดที่กล่าวมาในบางช่วงบางเวลา มีหลายสิ่งที่เราฝันว่าสักวันจะได้ทำ และมีหลายสิ่งที่เราอยากจะลืม พระคัมภีร์กล่าวว่า พระเยซูเสด็จมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งกลายเป็นสิ่งใหม่ ชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถเริ่มต้นใหม่หมดโดยไม่มีความผิดในอดีตติดตัว?

อยู่อย่างมีความหวัง

ถ้าคุณกำลังมองหาสันติสุข มีหนทางหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตคุณสมดุล ไม่มีใครสามารถเป็นคนดีพร้อมไร้ที่ติ หรือมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเราทุกคนมีโอกาสที่จะสัมผัสพระคุณที่สมบูรณ์ ผ่านทางความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้า โดยทางพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์

คุณสามารถรับพระเยซูคริสต์ได้เดี๋ยวนี้ด้วยการอธิษฐานโดยความเชื่อ การอธิษฐานคือการสนทนากับพระเจ้า พระเจ้าทรงทราบจิตใจของคุณ และพระองค์สนพระทัยท่าทีในจิตใจ มากกว่าถ้อยคำที่คุณอธิษฐาน ต่อไปนี้เป็นคำอธิษฐานที่เราขอแนะนำ

ข้าแต่พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์ต้องการรู้จักพระองค์เป็นส่วนตัว ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อความผิดบาปของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ขอเปิดประตูชีวิตต้อนรับพระองค์ และขออัญเชิญพระองค์เข้ามาอยู่ในชีวิต ในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดและองค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดครอบครองชีวิตของข้าพระองค์ ขอขอบพระคุณที่ทรงโปรดยกโทษความผิดบาปของข้าพระองค์ และประทานชีวิตนิรันดร์แก่ข้าพระองค์ โปรดสร้างข้าพระองค์ให้เป็นคนแบบที่พระองค์ต้องการเถิด อาเมน

คำอธิษฐานนี้ตรงกับความปรารถนาในจิตใจคุณหรือไม่? คุณสามารถอธิษฐานได้เดี๋ยวนี้ และพระเยซูคริสต์จะเสด็จเข้ามาในชีวิตของคุณ ตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้

คุณสามารถมีชีวิตแบบนี้ได้ไหม?

ถ้าคุณได้อัญเชิญพระคริสต์เข้ามาในชีวิตแล้ว ให้คุณขอบพระคุณพระเจ้าบ่อย ๆ ที่พระองค์ทรงอยู่ในชีวิตคุณ ที่พระองค์จะไม่มีวันทิ้งคุณ และที่คุณมีชีวิตนิรันดร์แล้ว เมื่อคุณเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับพระเจ้า และเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงรักคุณมากเพียงไร คุณก็จะสัมผัสชีวิตที่ครบบริบูรณ์เต็มเปี่ยม